"สิงโตคำราม" อังกฤษ ยกพลออกเยือนยิงนำ มอนเตเนโกร เจ้าบ้านไปก่อนถึง 2-0 แต่เครื่องเกิดแผ่วปลายถูกรัวยิงตีเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้มแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อังกฤษตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย เกมนี้ สิงโตเหลือผู้เล่น 10 คนนาทีที่ 73เนื่องจาก เวย์น รูนี่ย์ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
ฟุตบอลยูโร 2012 (รอบคัดเลือก กลุ่ม จี.)
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2554มอนเตเนโกร 2 - 2 อังกฤษ
สนาม : สตาดิโอน พ็อดโกริก้า
ทีมสิงโตคำราม ขอแค่แต้มเดียวก็จะผ่านเข้ารอบ เกมนี้กุนซือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ส่ง ฟิล โจนส์ ดาวรุ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมสนามกับบทบาทแบ๊กขวา ส่วนแดนหน้า ดาร์เรน เบนท์ ได้รับมอบหมายให้ยืนคู่ เวย์น รูนี่ย์ ขณะที่แดนกลางประกอบด้วย สก็อตต์ พาร์คเกอร์, ธีโอ วัลค็อตต์, แกเร็ธ แบร์รี่ และ แอชลี่ย์ ยัง
ด้านเจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ที่ยังไม่หมดหวัง นำโดยดาวยิงตัวเก่ง มีร์โก วูซินิช และตัวรุก สเตฟาน โยเวติช ส่วนแนวรับ สเตฟาน ซาวิช จาก แมนฯ ซิตี้ คอยดูแล
ออกสตาร์ทครึ่งแรก สิงโตคำราม เดินหน้าลุย และหวิดออกนำในนาทีที่ 3 เมื่อ วัลค็อตต์ สปีดขึ้นทางขวาเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนหลอกยิงมุมแคบที่เสาแรก เดือดร้อน มลาเดน โบโซวิช ทุบทิ้งได้หวุดหวิด
ทรี ไลอ้อน ดุดันทีเดียว ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา เข้าสู่นาทีที่ 7 กองหลังเจ้าบ้านโหม่งสกัดเข้าทางปืน วัลค็อตต์ ที่วิ่งมาวอลเล่ย์ตรงหัวกะโหลกแบบไม่จับลูกพุ่งแรง ทว่า โบโซวิช ล้มตัวปัดออกมาได้
กระทั่งนาทีที่ 11 กองเชียร์ทีมเยือนก็ได้เฮเมื่อ สิงโตคำราม นำ 1-0 จากจังหวะที่ รูนี่ย์ ป้ายบอลออกทางขวา วัลค็อตต์ จับแล้วบรรจงเปิดไปเสาสองให้ แอชลี่ย์ ยัง ก้มตัวโหม่งตุงตาข่าย
หลังเสียประตู มอนเตเนโกร พยายามฮึดสร้างเกมรุก แต่เจาะไม่เข้า เพราะคู่เซ็นเตอร์แบ๊กทีมเยือนอย่าง จอห์น เทอร์รี่ กับ แกรี่ เคฮิลล์ ยืนต่ำมาก ส่วนฟูลแบ๊กทั้งสองฟากก็แทบไม่เติมเลย
มอนเตเนโกร บุกเพลินๆ โดนสวนโป้งเดียวในนาทีที่ 32 เมื่อ พาร์คเกอร์ ตัดบอลได้กลางสนาม แล้วจ่ายให้ รูนี่ย์ แทงต่อให้ ยัง ทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายแล้วโชว์ความใจกว้างเปิดใส่พานทองให้ เบนท์ วิ่งมาแปง่ายๆ บวกสกอร์ให้ อังกฤษ หนี 2-0
สิงโตคำราม ดูจะเล่นสบายเกินไป กระทั่งนาทีสุดท้ายครึ่งแรก ก็สังเวยประตูเมื่อ ฟาตอส เบซิราจ เปิดจากขวาเข้ากลางให้ เอลซาด ซเวโรติช พักอกแล้ววอลเล่ย์ในกรอบเขตโทษแฉลบเบียดเสาเข้าไป จบครึ่งแรก เจ้าบ้านตามอยู่แค่ 1-2
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เจ้าบ้านส่ง มิลาน โยวาโนวิช แทน มลาเดน คาสเซลัน และมีลุ้นตีเสมอในนาทีที่ 49 จากลูกยิงไกลของ เบซิราจ แต่โชคดีของ อังกฤษ ที่ โจ ฮาร์ท ล้มตัวรับไว้ได้
นาทีต่อมา มอนเตเนโกร เรียกร้องจะเอาจุดโทษ เมื่อมองว่า โจนส์ ไปเสียบ สเตฟาน โยเวติช คว่ำในกรอบ แต่ผู้ตัดสิน โวล์ฟกัง สตาร์ค ไม่ยอมให้ ทำเอากองเชียร์โห่เสียงดัง
มอนเตเนโกร บุกกดดันใส่ทีมเยือนอย่างหนัก กระทั่งครบหนึ่งชั่วโมง คาเปลโล่ เปลี่ยนตัวด้วยการส่ง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกจาก ลิเวอร์พูล แทน ยัง ก่อนที่อีกราวห้านาทีต่อมา เบนท์ จะโดนเปลี่ยนให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แทน พร้อมกับที่ รูนี่ย์ รับบทหอกเป้าคนเดียว
เจ้าถิ่นส่ง เดยัน ดัมยาโนวิช ลงมาแทน เบซิราจ และเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน นาทีที่ 73 รูนี่ย์ เกิดอาการหงุดหงิด จนโดนใบแดงจากการไปเตะนอกเกมใส่ มิโอแดร็ก ซูโดวิช นักเตะเจ้าบ้าน ก่อนที่ คาเปลโล่ จะเปลี่ยนตัวสุดท้ายส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค แทน วัลค็อตต์ ในขณะที่เหลือราว 15 นาที
นาทีที่ 81 เวลเบ็ค ใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาบอลจากแดนตัวเองมาเรียกฟรีคิกหน้าปากประตู แลมพาร์ด ซัดแฉลบออกหลัง และจากจังหวะเตะมุม อังกฤษ หวิดได้เพิ่ม ทว่า ดาวนิ่ง ที่วิ่งมายิงตรงเสาสองซัดข้ามคาน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บมอนเตเนโกรที่มีผู้เล่นมากกว่ามาได้ประตูตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 2-2 จากการโหม่งแบบจ่อๆ ทางเสาสองของ อันดริยา เดลิบาซิช และทำให้ทั้งสองทีมจบลงที่ผลเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้มแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อังกฤษตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายจากการแข่ง 8 นัด มี 18 คะแนน ขณะที่ มอนเตเนโกรที่กู้แต้มสำคัญมาได้ยังคงมีลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มอนเตเนโกร : มลาเดน โบโซวิช, มิโอแดร็ก ซูโดวิช, สเตฟาน ซาวิช, มิโลรัด เปโควิช, ไซม่อน วุคเซวิช, วลาดิเมียร์ โบโซวิช, เอลซาด ซเวโรติช, มลาเดน คาสเซลัน, มีร์โก วูซินิช, สเตฟาน โยเวติช, ฟาตอส เบซิราจ
สำรอง : เซอร์ดยาน บลาซิช, ราโดสลาฟ บาทัค, มิลาน โยวาโนวิช, มาร์โก เซตโควิช, อันดริยา เดลิบาซิช, ราโดเมียร์ ยาโลวิช, เดยัน ดัมยาโนวิช
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, ฟิล โจนส์, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล, ธีโอ วัลค็อตต์, แกเร็ธ แบร์รี่, สก็อตต์ พาร์คเกอร์, แอชลี่ย์ ยัง, ดาร์เรน เบนท์, เวย์น รูนี่ย์
สำรอง : สก็อตต์ คาร์สัน, ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, บ๊อบบี้ ซาโมร่า, แดนนี่ เวลเบ็ค
ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมัน)
รูน ไปเตะนอกเกมใส่ มิโอแดร็ก ซูโดวิช จนถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
footyroom.com mon-eng from Some Dude on Vimeo.
สรุปผลฟุตบอล ยูโร 2012 รอบคัดเลือก
กลุ่มเอ
- อาเซอร์ไบจาน แพ้ ออสเตรีย 1 - 4
- ตุรกี แพ้ เยอรมัน 1 - 3
- บลเยียม ชนะ คาซัคสถาน 4 - 1
กลุ่มบี
- อาร์เมเนีย ชนะ มาซิโดเนีย 4 - 1
- สโลวาเกีย แพ้ รัสเซีย 0 - 1
- อันดอร์ร่า แพ้ ไอร์แลนด์ 0 - 2
กลุ่มซี
- ไอร์แลนด์เหนือ แพ้ เอสโตเนีย 1 - 2
- เซอร์เบีย เสมอ อิตาลี 1 - 1
กลุ่มดี
- บอสเนีย ชนะ ลักเซมเบิร์ก 5 - 0
- โรมาเนีย เสมอ เบลารุส 2 - 2
- ฝรั่งเศส ชนะ แอลเบเนีย 3 - 0
กลุ่มอี
- ฟินแลนด์ แพ้ สวีเดน 1 - 2
- ฮอลแลนด์ ชนะ มอลโดวา 1 - 0
กลุ่มเอฟ
- ลัตเวีย ชนะ มอลตา 2 - 0
- กรีซ ชนะ โครเอเชีย 2 - 0
กลุ่มจี
- เวลส์ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2 - 0
- มอนเตเนโกร เสมอ อังกฤษ 2 - 2
กลุ่มเอช- ไซปรัส แพ้ เดนมาร์ก 1 - 4
- โปรตุเกส ชนะ ไอซ์แลนด์ 5 - 3
กลุ่มไอ- เช็ก แพ้ สเปน 0 - 2
โบนัส 100% สำหรับ ลูกค้าที่สมัครใหม่ และฝากเงินครั้งแรก ฝากเท่าไหร่ รับโบนัสอีก 1 เท่า สูงสุดถึง 1,000บาท รับง่ายๆ เพียงกรอกรหัสโบนัสโค๊ด "12TH11100″ ในแบบฟอร์มการสมัครสมาชิก และโบนัสจะถูกเครดิตในบัญชีของคุณหลังจากการฝากเงินสำเร็จ
คุ้มสุดๆ ฝากเงิน 1,000 บาท รับโบนัสเพิ่มทุนฟรีอีก 1,000 บาท!!!
ฟุตบอลยูโร 2012 (รอบคัดเลือก กลุ่ม จี.)
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2554มอนเตเนโกร 2 - 2 อังกฤษ
สนาม : สตาดิโอน พ็อดโกริก้า
ทีมสิงโตคำราม ขอแค่แต้มเดียวก็จะผ่านเข้ารอบ เกมนี้กุนซือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ส่ง ฟิล โจนส์ ดาวรุ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมสนามกับบทบาทแบ๊กขวา ส่วนแดนหน้า ดาร์เรน เบนท์ ได้รับมอบหมายให้ยืนคู่ เวย์น รูนี่ย์ ขณะที่แดนกลางประกอบด้วย สก็อตต์ พาร์คเกอร์, ธีโอ วัลค็อตต์, แกเร็ธ แบร์รี่ และ แอชลี่ย์ ยัง
ด้านเจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ที่ยังไม่หมดหวัง นำโดยดาวยิงตัวเก่ง มีร์โก วูซินิช และตัวรุก สเตฟาน โยเวติช ส่วนแนวรับ สเตฟาน ซาวิช จาก แมนฯ ซิตี้ คอยดูแล
ออกสตาร์ทครึ่งแรก สิงโตคำราม เดินหน้าลุย และหวิดออกนำในนาทีที่ 3 เมื่อ วัลค็อตต์ สปีดขึ้นทางขวาเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนหลอกยิงมุมแคบที่เสาแรก เดือดร้อน มลาเดน โบโซวิช ทุบทิ้งได้หวุดหวิด
ทรี ไลอ้อน ดุดันทีเดียว ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา เข้าสู่นาทีที่ 7 กองหลังเจ้าบ้านโหม่งสกัดเข้าทางปืน วัลค็อตต์ ที่วิ่งมาวอลเล่ย์ตรงหัวกะโหลกแบบไม่จับลูกพุ่งแรง ทว่า โบโซวิช ล้มตัวปัดออกมาได้
กระทั่งนาทีที่ 11 กองเชียร์ทีมเยือนก็ได้เฮเมื่อ สิงโตคำราม นำ 1-0 จากจังหวะที่ รูนี่ย์ ป้ายบอลออกทางขวา วัลค็อตต์ จับแล้วบรรจงเปิดไปเสาสองให้ แอชลี่ย์ ยัง ก้มตัวโหม่งตุงตาข่าย
หลังเสียประตู มอนเตเนโกร พยายามฮึดสร้างเกมรุก แต่เจาะไม่เข้า เพราะคู่เซ็นเตอร์แบ๊กทีมเยือนอย่าง จอห์น เทอร์รี่ กับ แกรี่ เคฮิลล์ ยืนต่ำมาก ส่วนฟูลแบ๊กทั้งสองฟากก็แทบไม่เติมเลย
มอนเตเนโกร บุกเพลินๆ โดนสวนโป้งเดียวในนาทีที่ 32 เมื่อ พาร์คเกอร์ ตัดบอลได้กลางสนาม แล้วจ่ายให้ รูนี่ย์ แทงต่อให้ ยัง ทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายแล้วโชว์ความใจกว้างเปิดใส่พานทองให้ เบนท์ วิ่งมาแปง่ายๆ บวกสกอร์ให้ อังกฤษ หนี 2-0
สิงโตคำราม ดูจะเล่นสบายเกินไป กระทั่งนาทีสุดท้ายครึ่งแรก ก็สังเวยประตูเมื่อ ฟาตอส เบซิราจ เปิดจากขวาเข้ากลางให้ เอลซาด ซเวโรติช พักอกแล้ววอลเล่ย์ในกรอบเขตโทษแฉลบเบียดเสาเข้าไป จบครึ่งแรก เจ้าบ้านตามอยู่แค่ 1-2
กลับมาเล่นครึ่งหลัง เจ้าบ้านส่ง มิลาน โยวาโนวิช แทน มลาเดน คาสเซลัน และมีลุ้นตีเสมอในนาทีที่ 49 จากลูกยิงไกลของ เบซิราจ แต่โชคดีของ อังกฤษ ที่ โจ ฮาร์ท ล้มตัวรับไว้ได้
นาทีต่อมา มอนเตเนโกร เรียกร้องจะเอาจุดโทษ เมื่อมองว่า โจนส์ ไปเสียบ สเตฟาน โยเวติช คว่ำในกรอบ แต่ผู้ตัดสิน โวล์ฟกัง สตาร์ค ไม่ยอมให้ ทำเอากองเชียร์โห่เสียงดัง
มอนเตเนโกร บุกกดดันใส่ทีมเยือนอย่างหนัก กระทั่งครบหนึ่งชั่วโมง คาเปลโล่ เปลี่ยนตัวด้วยการส่ง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกจาก ลิเวอร์พูล แทน ยัง ก่อนที่อีกราวห้านาทีต่อมา เบนท์ จะโดนเปลี่ยนให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แทน พร้อมกับที่ รูนี่ย์ รับบทหอกเป้าคนเดียว
เจ้าถิ่นส่ง เดยัน ดัมยาโนวิช ลงมาแทน เบซิราจ และเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน นาทีที่ 73 รูนี่ย์ เกิดอาการหงุดหงิด จนโดนใบแดงจากการไปเตะนอกเกมใส่ มิโอแดร็ก ซูโดวิช นักเตะเจ้าบ้าน ก่อนที่ คาเปลโล่ จะเปลี่ยนตัวสุดท้ายส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค แทน วัลค็อตต์ ในขณะที่เหลือราว 15 นาที
นาทีที่ 81 เวลเบ็ค ใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาบอลจากแดนตัวเองมาเรียกฟรีคิกหน้าปากประตู แลมพาร์ด ซัดแฉลบออกหลัง และจากจังหวะเตะมุม อังกฤษ หวิดได้เพิ่ม ทว่า ดาวนิ่ง ที่วิ่งมายิงตรงเสาสองซัดข้ามคาน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บมอนเตเนโกรที่มีผู้เล่นมากกว่ามาได้ประตูตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 2-2 จากการโหม่งแบบจ่อๆ ทางเสาสองของ อันดริยา เดลิบาซิช และทำให้ทั้งสองทีมจบลงที่ผลเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้มแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อังกฤษตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายจากการแข่ง 8 นัด มี 18 คะแนน ขณะที่ มอนเตเนโกรที่กู้แต้มสำคัญมาได้ยังคงมีลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
มอนเตเนโกร : มลาเดน โบโซวิช, มิโอแดร็ก ซูโดวิช, สเตฟาน ซาวิช, มิโลรัด เปโควิช, ไซม่อน วุคเซวิช, วลาดิเมียร์ โบโซวิช, เอลซาด ซเวโรติช, มลาเดน คาสเซลัน, มีร์โก วูซินิช, สเตฟาน โยเวติช, ฟาตอส เบซิราจ
สำรอง : เซอร์ดยาน บลาซิช, ราโดสลาฟ บาทัค, มิลาน โยวาโนวิช, มาร์โก เซตโควิช, อันดริยา เดลิบาซิช, ราโดเมียร์ ยาโลวิช, เดยัน ดัมยาโนวิช
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, ฟิล โจนส์, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล, ธีโอ วัลค็อตต์, แกเร็ธ แบร์รี่, สก็อตต์ พาร์คเกอร์, แอชลี่ย์ ยัง, ดาร์เรน เบนท์, เวย์น รูนี่ย์
สำรอง : สก็อตต์ คาร์สัน, ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, บ๊อบบี้ ซาโมร่า, แดนนี่ เวลเบ็ค
ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมัน)
รูน ไปเตะนอกเกมใส่ มิโอแดร็ก ซูโดวิช จนถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
สรุปผลฟุตบอล ยูโร 2012 รอบคัดเลือก
กลุ่มเอ
- อาเซอร์ไบจาน แพ้ ออสเตรีย 1 - 4
- ตุรกี แพ้ เยอรมัน 1 - 3
- บลเยียม ชนะ คาซัคสถาน 4 - 1
กลุ่มบี
- อาร์เมเนีย ชนะ มาซิโดเนีย 4 - 1
- สโลวาเกีย แพ้ รัสเซีย 0 - 1
- อันดอร์ร่า แพ้ ไอร์แลนด์ 0 - 2
กลุ่มซี
- ไอร์แลนด์เหนือ แพ้ เอสโตเนีย 1 - 2
- เซอร์เบีย เสมอ อิตาลี 1 - 1
กลุ่มดี
- บอสเนีย ชนะ ลักเซมเบิร์ก 5 - 0
- โรมาเนีย เสมอ เบลารุส 2 - 2
- ฝรั่งเศส ชนะ แอลเบเนีย 3 - 0
กลุ่มอี
- ฟินแลนด์ แพ้ สวีเดน 1 - 2
- ฮอลแลนด์ ชนะ มอลโดวา 1 - 0
กลุ่มเอฟ
- ลัตเวีย ชนะ มอลตา 2 - 0
- กรีซ ชนะ โครเอเชีย 2 - 0
กลุ่มจี
- เวลส์ ชนะ สวิตเซอร์แลนด์ 2 - 0
- มอนเตเนโกร เสมอ อังกฤษ 2 - 2
กลุ่มเอช- ไซปรัส แพ้ เดนมาร์ก 1 - 4
- โปรตุเกส ชนะ ไอซ์แลนด์ 5 - 3
กลุ่มไอ- เช็ก แพ้ สเปน 0 - 2
โบนัส 100% สำหรับ ลูกค้าที่สมัครใหม่ และฝากเงินครั้งแรก ฝากเท่าไหร่ รับโบนัสอีก 1 เท่า สูงสุดถึง 1,000บาท รับง่ายๆ เพียงกรอกรหัสโบนัสโค๊ด "12TH11100″ ในแบบฟอร์มการสมัครสมาชิก และโบนัสจะถูกเครดิตในบัญชีของคุณหลังจากการฝากเงินสำเร็จ
คุ้มสุดๆ ฝากเงิน 1,000 บาท รับโบนัสเพิ่มทุนฟรีอีก 1,000 บาท!!!
0 ความคิดเห็น:
Speak up your mind
Tell us what you're thinking... !